Do you want change?
อยากให้วงการคราฟท์เบียร์ไทยเติบโตทุกคนต่างต้องช่วยกันทั้งคนต้ม คนดื่ม และร้านบาร์ เหมือนที่พี่เคยพูดไว้จะเกิดคราฟต์เบียร์เสรีได้เราต้องทำทั้ง 2 ทั้งแบบ วิธี Top down คือการเปลี่ยนกฎระเบียบเปลี่ยนกฎหมาย ซึ่งน้องๆก็ได้มีความพยายามมาตลอดหลายปี และมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนอีกแนวทางคือวิธี Bottom up คือ ต้ม ดื่ม แชร์ จัดประกวดเบียร์ จัดงานเบียร์ เหมือนอย่างงาน Khon Fresh Beer ในคืนนี้ มีคนในวงการเบียร์มารวมตัวกันมากมายประมาณ 400 คน บางคนขับรถมา บางคนนั่งเรือข้ามเกาะมา บางคนก็บินมา #บินมาเมา เราสามารถทำให้งานแบบนี้เกิดขึ้นมาได้ แม้กฎหมายยังไม่เปลี่ยน เพราะคนได้เปลี่ยนไปแล้ว #เปลี่ยนกฎหมายต้องใช้อำนาจแต่เปลี่ยนคนไม่ต้อง
What’s next
หากถามพี่ชิตว่าควรจะเอาอย่างไรต่อไป พี่ว่าเราควรจะ focus ไปที่โรงเบียร์ท้องถิ่นแบบ Brewpub ได้ทั้งเบียร์ ได้ทั้งงาน ได้ทั้งคนและเศรษฐกิจชุมชน หลังจาก กม. กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมเปลี่ยนเมื่อ 2 ปีที่แล้วเกี่ยวกับเครื่องจักรไม่เกิน 50 แรงม้า เราไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง. 4) ทำให้เราสามารถขึ้นโรงเบียร์ Brewpub ได้ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
Brewpub network
วันนี้หากใครมีความพร้อมจะขึ้นโรงเบียร์ประจำจังหวัดพี่เชื่อว่าเราไม่มีข้อจำกัดอะไรแล้ว หากเงินทุนพร้อมก็สามารถทำเสร็จได้ภายใน 9 เดือน ไม่จำเป็นต้องรอ 4 ปีเหมือนโรงเบียร์มิตรสัมพันธ์ที่ปากเกร็ด ปัญหาหลักต่อไปมีอีก 2 เรื่อง อย่างแรกคือการสร้าง Brewer มืออาชีพ ซึ่งพี่เชื่อว่าเราสามารถต่อยอดจากทักษะ Homebrew ที่พวกเรามีอยู่แล้วได้
ส่วนอีกเรื่องคือการแชร์เบียร์กันระหว่างโรงเบียร์กันเอง หมายความว่าเบียร์ต้มปากเกร็ดทำไมจะส่งไปให้โรงเบียร์ขอนแก่นไม่ได้ เบียร์ต้มขอนแก่นทำไมคนหาดใหญ่จึงไม่ได้กิน หรือเบียร์ต้มพัทยาจะไมจะส่งไปให้คนเชียงใหม่ชิมไม่ได้ ในเมื่อเจ้าของโรงเบียร์แต่ละแห่งจ่ายภาษีถูกต้องครบถ้วนทุกครั้งที่ต้มอยู่แล้ว
พี่ไม่ได้เรียกร้องการเอาเบียร์บรรจุลงขวด หรือลงกระป๋อง แต่พี่ต้องการส่งเบียร์สดบรรจุถัง ด้วยแนวคิดนี้เราไม่จำเป็นต้องรอว่ารัฐบาลไหนๆจะมาช่วยเรา แต่เราต้องคิดและทำเพื่อตัวของเราเอง โดยมีข้อแม้ว่ารัฐยังเก็บภาษีได้ครบถ้วนทุกถังที่เราต้ม พี่คิดว่านี้คือสิ่งควรทำได้ และต้องทำต่อไป